ช่วงนี้พนักงานจำนวนไม่น้อยในนหลายองค์กรต่างลุ้นอย่างระทึกใจว่าปลายเดือนนี้หรือปลายเดือนหน้าจะได้เงินเดือนใหม่ปี
59 ขึ้นจากเดิมเท่าไร ที่ยิ่งระทึกกว่าคือเงินดือนใหม่นี้เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงานรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว
น้อยหรือมากกว่ากัน (ทั้งที่ก็รู้ว่าเงินเดือนเป็นความลับที่ห้ามบอกใคร
แต่ไม่บอกก็ไม่สบายใจซะงั้น)
บางคนที่ได้เงินเดือนมากกว่าคาด หรือคาดว่าน่าจะมากกว่าเพื่อนที่ตัวเปรียบเทียบก็อารมณ์ดีไป แต่กับบางคนที่แว่วมาว่าน่าจะได้ปรับขึ้นนิดหน่อย
ก็คงไม่สบายใจแถมเผื่อใจเตรียมตัวไว้หางานใหม่ที่จะช่วยให้ up ค่าตัวให้มากขึ้นได้
ไม่ว่าจะอยู่ทำงานต่อไป หรือจะหางานใหม่ท้าทายตัวเองเพื่อให้ได้ประสบการณ์และเงินเดือนโตตามไป ก็ขอให้อย่าลืมสิ่งต่อไปนี้ด้วยครับ
1) สั่งสมประสบการณ์ หากอยากทำงานได้เงินเดือนมาก ๆ ในทางหนึ่งนั้นไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการมีประสบการณ์ที่ตรงกับงานที่ทำ
โดยเฉพาะประสบการณ์ในเชิงการบริหารจัดการ
เพราะนั่นหมายถึงเรามีขีดความสามารถที่จะไปจัดการให้คนอื่นทำงานตามเป้าหมาย
เพิ่มขยายไปจากการผลักดันให้ตัวเองเกิดผลงานออกมา ประสบการณ์เช่นนี้ ต้องหมั่นพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าและล้ำหน้ากว่าคนอื่นให้มากเข้าไว้
แถมควรต้องฉายแววออกมาให้หัวหน้าเห็นด้วยการอาสาลงมือทำงานใหม่ ๆ ที่ท้าทายและแบ่งเบาภาระของหัวหน้างานบ้าง ประสบการณ์ที่มีมากขึ้นก็จะกำกับไปด้วยความน่ารักในน้ำใจ
ซึ่งใคร ๆ ก็ลื่นชมครับ
เมื่อจะสั่งสมประสบการณ์ทั้งที ขอให้บ่มเพาะวุฒิภาวะหรือความเป็นผู้ใหญ่คู่ขนานกันไป
หลายคนเก่งแต่ไม่น่ารัก เชี่ยวชาญงานไปหมดแต่พูดจาไม่เข้าหูคน แถมเที่ยวแขวะใครที่ความคิดไม่ตรงตัวเองไปหมด
แบบนี้ก็ยากที่ใครจะรับได้เหมือนกัน
2) สร้างผลงานโดดเด่น ด้วยการทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ได้มาก
ๆ เข้าไว้ ซึ่งมันจะช่วยโชว์ฝีมือให้ประจักษ์ในสายตาของหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
โดยเฉพาะเมื่อต้องหางานใหม่ ผลงานที่ทำไว้จะเป็นเครื่องยืนยันประสบการณ์ชั้นดีให้เราได้
3) เน้นฝึกภาษา (ต่างประเทศ) อย่าว่าแต่องค์กรภาคเอกชนเลยครับที่ต้องเตรียมพร้อมบุคลากรให้พร้อมกับภาษาอังกฤษและภาษาอื่น
ๆ ใน AEC องค์กรภาครัฐก็ไม่น้อยหน้า หลายองค์กรที่ผมเห็นถึงกับจัดทำ Training
Roadmap ให้กับเจ้าหน้าที่ได้ฝึก English หรือภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน
ภาษาเวียดนาม เป็นต้น สำหรับองค์กรเอกชนนั้น
ภาษาอังกฤษถือว่าเป็นภาษาหลางในการสื่อสารไปแล้ว และหากขาดทักษะกล่าวคือฟังไม่ออก-พูดไม่ได้-อ่านไม่ถูก-เขียนไม่เป็น
ก็เห็นทีจะเติบโตช้ากว่าคนอื่นที่เขามีทักษะนี้ในการทำงาน
4) หางานใหม่ทำ วิธีนี้ถือเป็นอะไรที่ทำให้เงินเดือนสูงขึ้นเร็วที่สุด
แต่การเปลี่ยนงานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่มีองค์กรใดที่จะหาคนมาร่วมงานแบบไม่ไตร่ตรองให้ดี อย่างน้อยที่สุดองค์กรก็จะมองว่าเรามีคุณวุฒิ
มีประสบการณ์กับมีผลงานอะไรที่เป็นจุดดีมาบ้าง และทั้งหลายนั้นตรงหรือเป็นคุณสมบัติที่กำหนดไว้สำหรับตำแหน่งหรือเปล่า
เราจึงมักพบว่า คนที่เปลี่ยนงานใหม่ไม่ได้หลายคนคือคนที่ยังไม่มีจุดเด่นจุดดีอะไรที่เหมาะสมจะให้ว่าจ้าง
จึงต้องทำงานแบบ “ทนทนไป” กับองค์กรเก่าต่อไป ซึ่งทำแบบนี้
มีแต่เสียเวลาที่มีค่าของชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย
ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนที่ทำงานอยู่
สิ่งที่ควรทำคือทำงานตรงหน้าในหน้าที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ที่มีประโยชน์กับชีวิตการทำงานในวันข้างหน้า
และสร้างผลงานออกมาให้ปรากฎแก่สายตาหัวหน้าละเพื่อนร่วมงาน
โดยไม่แล้งน้ำใจข่วยเหลือแบ่งปันเพื่อนร่วมงานคนอื่นบ้าง
เท่านี้ก็ดีเยี่ยมแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น