วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ใช้เวลาทำงานแต่ละวันให้คุ้มค่า


เป็นความจริงที่องค์กรจ้างเราเข้าทำงานโดยจ่ายเงินเดือนแลกกับเวลาทำงานไม่ต่ำกว่าแปดชั่วโมงตามกฎหมายและย่อมอยากได้ผลลัพธ์จากการทำงานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยต่างตอบแทนกลับมา
มนุษย์เงินเดือนคนใดที่ทำงานได้ครบชั่วโมงโดยไม่เสียเวลาไปทำเรื่องอื่นใดที่ไร้คุณค่า จึงมักจะได้รับการยกย่องชื่นชมในสายตาของคนรอบข้างเสมอ
แต่ลองสังเกตดูสิครับว่าในแต่ละวันเราใช้เวลาไปแบบไม่กิดประโยชน์มากน้อยเพียงใดและในเรื่องใดบ้าง บางคนชอบเดินไปคุยเรื่องสัพเพเหระกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นวันละหลาย ๆ รอบ บางคนสอบแต่สอดส่ายสายตาหาเรื่องมาเม้าท์เอามันส์คนอื่น  บางคนบ่ายมาสอดสายตาหาแต่ขนม เดินขึ้นลงอาคารสำนักงานกับร้านค้าปากซอยกันให้วุ่น บางคนก็อยู่ในไลน์ออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหนไม่ได้ก็เหม่อลอยไปเรื่อย  บ้างก็ใช้เวลาไปสูบบุหรีอวันละหลายคราวนับแต่วันละหลายมวนยิ่งกว่าชั่วโมงการทำงานกินเงินเดือนแต่ละวันเสียด้วยซ้ำ  เป็นต้น  
มองจากใจของฝั่งนายจ้างหรือองค์กร แม้เขาจะพอรับได้ในระดับหนึ่งว่าในแต่ละวันจะยอมสูญเสียเวลาที่ไม่ทำให้เกิดผลิตภาพ (หรือที่เรียกว่า Allowance Time) จำนวนหนึ่ง เช่นวันละ 45 นาทีหรือหนึ่งชั่วโมง ก็ตาม แต่หากเอาเวลาที่ยอมให้สูญเสียไปนี้คูณเข้ากับจำนวนพนักงานและวันทำงานในแต่ละปี ก็น่าสนใจยิ่งว่าองค์กรยอมเสียผลิตภาพหรือมูลค่าอะไรบางอย่างมหาศาลจากการจ้างงานพนักงาน 
ซึ่งนั่นก็น่าเห็นใจไม่น้อยในมุมขององค์กร
ในฐานะคนทำงานกินเงินเดือนก็ควรต้องรู้จักบริหารเวลางานในช่วงที่หัก Allowance Time นี้แล้วให้เกิดผลงานให้มากที่สุด
ลองสังเกตดูเรามักจะพบว่าเหตุที่ทำให้เราเสียเวลาไปอย่างน่าเสียดายนั้นได้แก่การขาดระบบการทำงานที่ดีพอ ขาดการวางแผนและกำหนดขั้นตอนที่รัดกุมเพียงพอ บ้างก็เพราะจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ดี ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังจนเสียเวลาที่มีคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งผมจะไม่ชวนคุยเรื่องนี้
แต่อยากจะกล่าวถึงเหตุหนึ่งก็คือเรื่องการเสียเวลาไปกับกิจกรรมอื่นใดที่ไม่ใช่งานรับผิดชอบเช่นที่พูดถึงไปย่อหน้าก่อน ๆ  ซึ่งว่าไปแล้วส่วนมากเป็นเรื่องของพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสมนัก
ถึงเวลาแล้วล่ะครับที่ต้องใคร่ครวญและใช้ประโยชน์จากเวลาในแต่ละวันให้มีคุณค่าสูงสุด ดีกว่าที่จะมานั่งบ่นแต่ว่าตัวเองไม่มีเวลาพอที่จะพาความรู้เพิ่มเติมกับงานที่ทำ หรือขาดเวลาที่จะนำไปปรับปรุงงาน
ไม่ยากไปใช่มั้ยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น