วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

ปลุกพลังความสดใสในทุกวันทำงาน


มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยชอบบ่นอุบเวลาตื่นนอนตอนเช้าแล้วจะต้องรีบเร่งจัดแจงสารพัดแล้วเดินทางออกไปที่ทำงาน โดยเฉพาะเช้าวันจันทร์หลังจากหยุดพักผ่อนวันเสาร์และอาทิตย์บ้าง หรือวันอาทิตย์วันเดียวบ้าง ก็ยิ่งชวนให้อยากหลับต่อแบบค่อยตื่นได้มั้ยจ๊ะ !!! ประหนึ่งอยากให้วันหยุดมีต่อเนื่องอีกวันเหลือเกิน 

ความคิดทำนองที่ยกมากล่าวถึงนี้ ว่าไปก็ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ด้วยเพราะคิดไปแล้วก็มีแต่ทำให้อารมณ์สดใจในเช้าของวันทำงานหดหายไป ขาดพลังที่จะไปเริ่มทำงานในเช้าวันใหม่ที่ถึงอย่างไรก็ต้องไปทำงานเพื่อแลกประสบการณ์และคุณค่ามากหลายให้กับชีวิต

กับคนที่มุ่งเดินทางไปในวิถีทางของความสำเร็จนั้น การเปิดสมองและความคิดให้สดใสพร้อมลุยงานใหม่ ๆ ในทุกวันทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก May McCartney ผู้บริหารของบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการดำเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งหนึ่งชื่อ “Bizzultz” และจัดได้ว่าเป็นนักลงทุนตัวยงคนหนึ่งที่นำเงินของตัวเองไปลงทุนในโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ บอกว่า หากมนุษย์เงินเดือนอยากประสบความสำเร็จดีดีในวันนี้หรือวันไหว ต้องรู้จักที่จะปรับจูนความคิดและอารมณ์ของตัวเองในทุกวันให้สดใสพร้อมรับงานและสิ่งใดทั้งหลายในชีวิตการทำงาน และทำอย่างมีเป้าหมายให้ได้  พร้อมกับแนะนำไว้อย่างน่าสนใจให้ทำหลายเรื่องดังนี้

1)  ให้เวลากับการทบทวนตัวเอง โดยอาจจะทบทวนว่าวันที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรลงไปบ้างตามแนวทางทั้งหลายที่คนประสบความสำเร็จเขาทำกัน เช่น ได้หมั่นเพียรหาความรู้ เทคนิควิธีการใหม่ ๆ เพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด เป็นต้น หากจะให้ดี ควรหามุมที่สงบในสำนักงานหรือที่บ้าน ลิสต์รายการที่ว่าไว้ออกมาให้ได้มากที่สุด สิ่งที่ได้ทบทวนออกมาเหล่านี้จะเป็นสิ่งเตือนใจชั้นดีกับการทบทวนตัวเอง

2)  อ่านข้อความสร้างแรงบันดาลใจ  การอ่านข้อความ (Quote) ดีดีที่มี post ไว้มากมายในโลก Internet สักวันละนิดวันละหน่อย นับเป็นสิ่งที่ประเทืองความคิดและสติปัญญาเราได้มาก ข้อความหลายอย่างสร้างแรงบันดาลใจให้เราลองคิดและทำสิ่งใหม่ที่น่าเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อชีวิตการทำงาน  ข้อความบางชิ้นเขียนไว้เพื่อคอยเตือนใจให้เราไม่หลงละเลยที่จะทำเพื่อให้ชีวิตก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จ 

นักจิตวิทยาบอกเอาไว้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จนั้น มักจะอ่านเรื่องราวความสำเร็จของคนอื่น เช่นการก้าวทะยานของแจ๊ค หม่า มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอาฯจักร e-Commerce ชื่อ “Alibaba” แต่อย่าลืมที่จะนำขิ่ควมยอาจจะทบทวนว่าวันที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรลงไปบ้างตามแนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน

3)  ขอบคุณกับทุกสิ่ง อาจจะทำด้วยการเขียนขอบคุณสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่ส่งผลให้วันนี้ยังมีเราโลดแล่นอยู่ในแวดวงการทำงาน การรู้จักขอบคุณเช่นนี้ มีข้อดีหลายอย่างเช่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกบุญคุณที่ได้รับ  แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งนักจิตวิทยาเค้าพบว่า คนทำงานที่มีความสำนึกในบุญคุณ จะเกิดความสุข สมาธิและมีแนวโน้มที่จะฟันฝ่าแก้ไขปัญหาและอุปสรรคได้ดีกว่าคนที่ไม่รู้จักขอบคุณอะไรกับใครเลย หรือคนที่ไม่ได้มีน้ำใสใจจริงกับการขอบคุณสรรพสิ่งรายรอบตัว

หากจะให้ดีควรขอบคุณด้วยการ “ออกเสียง” หรือ “เปล่งเสียง” ออกมาให้ชัดถ้อยคำ เพื่อให้เสียงนั้นฝังลงไปในจิตใต้สำนึกของเรา ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกดีดีฝังตรึงในอารมณ์แน่นแฟ้นขึ้น  

4)  นึกภาพเป้าหมายความสำเร็จ ลองหลับตาแล้วนึกสิครับว่าความสำเร็จของงานหนึ่งงานใดที่เรานำมา “นึก” นั้นมีผลลัพธ์หน้าตาอย่างไร กล่าวง่าย ๆ ว่า หากเรื่องนี้สำเร็จลงได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จะเป็นอย่างไร ความคิดแบบนี้ช่วยสร้างพลังใจให้เราฮึกเหิมได้อย่างมาก

นักกีฬามืออาชีพที่ประสบความสำเร็จจำนวนไม่น้อยโปรแกรมให้ตัวเองนึกถึงภาพแห่งความสำเร็จของการเป็นนักกีฬาให้ได้ และมักจะพบว่าพวกเขาก็ได้รับชัยชนะจริง ๆ

กระนั้นก็ตาม แม้ผมจะไล่เรียงลำดับข้อมาดังข้างต้น แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามขั้นตอนตามลำดับจึงจะเกิดอารมณ์สดใสในวันทำงานได้สมบูรณ์ เช่นการอ่านข้อความสร้างแรงบันดาลใจในเวลาที่ทำงานแล้วจิตตก หรือเวลาที่ต้องการกระตุ้นจูงใจตัวเองให้มากเป็นพิเศษก็จะช่วยให้บางภาวะอารมณ์ด้านลบกลับมาสู่ด้านบวกได้ ๆ เหล่านี้ได้มากเท่าใด ก็แสดงให้เห็นถึงการปลุกพลังความสดใสในทุกวันทำงานได้มากขึ้นเท่านั้น และยิ่งเรามีมากเท่าใดเราเองก็จะได้รับประโยชน์จากมันมากขึ้นเพียงนั้น

อย่าปล่อยให้เรื่องดีดีแบบนี้ลอยนวลนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น