แต่ไม่ว่าอย่างไร การตกงานแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจมาถึงตัวเราแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
หรือในสถานการณ์ที่องค์กรต้องควบรวมกิจการกับคนอื่นเขา
แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าดีแล้ว เพราะ HR บอกล่วงหน้ากันมาระดับหนึ่ง
แต่พอจะถึงวันที่ต้องจากกันไป โดยเฉพาะคนทำงานที่อายุมากแล้ว
แถมตำแหน่งหน้าที่การงานก็ยังไม่ถึงระดับบริหารเสียทีก็ย่อมตกใจมากขึ้น
หากต้องตกงานแล้ว ท่านควรจะคิดอย่างไรดี บทความนี้มีคำตอบครับ
(1)
ตั้งสติให้มั่น - การมีสติเป็นบ่อเกิดของปัญญาซึ่งจะช่วยให้เรารู้จักคิดและนำไปสู่การหาคำตอบของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ถ้าเรามัวแต่สติแตกเราก็จะไม่สามารถหาทางออกให้ตัวเองได้
ทางออกหรือการแก้ปัญหาของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่สถานะของแต่ละคน เช่น
สถานะการเงิน ภาระหน้าที่ในการผ่อนชำระหนี้สิน และ ค่าใช้จ่ายรายเดือน
ดังนั้นการวิเคราะห์สถานะการเงินและค่าใช้จ่ายรายเดือนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องรู้เพื่อที่คุณจะสามารถใช้ในการวิเคราะห์ในขั้นตอนต่อไปซึ่งก็คือการบริหารจัดการการเงินของคุณระหว่างที่รองานใหม่
ถ้าค่าใช้จ่ายของคุณมากเกินไปคุณจำเป็นที่จะต้องลดค่าใช้จ่ายค่าใช้โดยแยกค่าใช้จ่ายชองคุณเป็นสองประเภท
คือ “need” หรือ “want” Need หมายถึงสิ่งที่จำเป็นที่ในชีวิตประจำวันขาดไม่ได้เช่น
อาหาร น้ำ เป็นต้น Want หมายถึงสิ่งของที่คุณอยากได้เช่นรถยนต์ราคาแพง
อาหารหรูๆ เสื้อผ้าแพงๆ ถ้าค่าใช้จ่ายรายเดือนตกอยู่ในประเภท Want คุณควรจะตัดค่าใช้จ่ายเหล่านั้นเพื่อลดภาระหนี้สิน
(2)
อย่าอับอายหรืออับจนหนทาง
- ชีวิตคนเรานั้นไม่สุขเสมอไปหรอกครับ ย่อมสุขเศร้าเหงารักคละเคล้ากันไปทั้งนั้น เรามักจะได้ยินบ่อยครั้งว่าคนที่ตกงานมักจะรู้สึกว่าตนเองแย่
ชีวิตไม่อยู่หรือน่าสมเพช หรืออะไรทำนองนั้น นี่เป็นวิธีคิดแบบลบ ๆ
ที่ยิ่งจะชวนให้ตกบ่วงความทุกข์ระทมซึมลึกมากขึ้นทุกที คิดแบบนี้บ่อยครั้งเข้ายิ่งทำลายความมั่นใจ
และกลายเป็นอุปสรรคในการสร้างความมุ่งมั่นเพื่อที่จะหางานใหม่
ลองติดตามข่าวการเลิกจ้างงานของประเทศอื่นสิครับ
จะพบว่า เดี๋ยวก็มีข่าวบริษัทนั้นบริษัทนี้ โละคนงานหลายพันคน
บางองค์กรปลดคนเพราะภาวะเศรษฐกิจรัดตัวหลายหมื่นคน
บางองค์กรลอยแพปิดตัวเพราะเดินหน้าทำธุรกิจต่อไปไม่ไหว
เดือดร้อนลูกจ้างต้องมาห้องร้องกันถึงโรงถึงศาล
คนที่พบปัญหาที่ว่าเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากเราในวันนี้ แล้วเราจะยอมแพ้ เดินเข้ามุม
หรือมัวแต่ตีอกชกตัวทำไป
(3) มองมุมใหม่ ไม่เดินทางลบ – เมื่อต้องตกงาน
ก็ต้องคิดหาทางหมั่นฝึกฝนตนเองให้มีทั้งความมุ่งมั่นในการหางานใหม่
และมุ่งมั่นกับการมองหาสิ่งที่ดีกว่าเดิมต่อเติมประสบการณ์ที่เคยผ่านมาให้มากขึ้น อย่ามัวแต่คิดว่าเราแก่แล้ว
หรือเรารู้น้อยองค์กรอื่นเค้าจะรับเข้าทำงานเหรอ
เพราะคิดลบลบแบบไหนก็ได้ผลตอบรับแบบลบ ๆ เช่นเดียวกัน คิดลบมากหนักเข้าก็จะซึมเศร้าหันไปพึ่งพาทางลัดหาเงินจากการพนัน
เสี่ยงโชคซึ่งมักจะนำนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายลงอย่างคาดไม่ถึง
(4) เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส - ผมอยากชวนให้คิดว่า การตกงานครั้งนี้
คือการเปลี่ยนงานเพื่อหาประสบการณ์
หากท่านต้องตกงานแล้วได้เงินชดเชยตามกฎหมายก็ยิ่งดี
เพราะได้เงินติดปลายนวมมาไว้ต่อทุนในการหางานใหม่ หาประสบการณ์และพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ
ให้ตัวเอง
แม้จะกระทบกับชีวิตที่คุ้นเคยบ้าง แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะทุกอย่างยิ่งต้องแลกมาด้วยสิ่งหนึ่งเสมอ ไม่ต่างจากที่ผมนั่งเขียนบทความนี้
ก็ต้องแลกกับเวลาแทนที่จะต้องพักผ่อนกับครอบครัว
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการฝึกปรือทักษะการคิดที่เฉียบคมมากขึ้น
และมากขึ้นทุกวัน
สู้เอาเวลาคิดเรื่อลบ
ๆ มาคิดหาทางพัฒนาทักษะในช่วงตกงานที่อาจจะนำเราไปสู่การได้รับโอกาสการทำงานใหม่ ๆ
ที่ดีกว่า ตำแหน่งสูงขึ้น เงินเดือนมากขึ้น จะไม่ดีกว่าหรือครับ
อย่าจิตตกเพราะตกงาน
แต่ควรต้องรวบรวมสติเดินหน้าต่อไป และขอให้มองทุก ๆ
วันของชีวิตคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่ท่านต้องใช้มันอย่างรอบคอบครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น