องค์กรของท่านเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่า
?
·
แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เผลอแว๊บเดียว นินทากันต่อหน้าเจ้านายเห็น ๆ
·
พูดจากันดีดีไม่ค่อยมี ใช้อารมณ์มากกว่าสิต
·
เอาชนะคะคานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
·
พนักงานไม่ค่อยเชื่อฟังหัวหน้า
ถึงเชื่อก็เชื่อแบบงั้น ๆ เสียมิได้มากกว่า
·
ผลงานของพนักงานและหน่วยงานตกต่ำลงอย่างน่าตกใจ...
·
การทำงานไม่ค่อยมีคุณภาพ
ไม่มีผลงานใหม่ ๆ ทำงานไปวัน ๆ น่ะพอไหว
·
พนักงานขาดหรือลางานบ่อย
จนผิดสังเกต หรือมาทำงานสายเป็นประจำ
·
พนักงานลาออกบ่อย
เข้ามาทำงานไม่ทันไร ออกไปหางานใหม่แล้ว เหมือนกันบริษัทเป็น academy เลย
·
พนักงานไม่ค่อยสนใจกฎระเบียบของบริษัท
นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของ
“งาน” ที่เราท่านมักพบกันได้เสมอ
และเป็นตัวอย่างเพียงปัญหาที่เกิดจากฟากฝั่งตัวบุคคล ไม่นับรวมปัญหาที่เกิดจากระบบงาน
(work system) ที่อาจจะมีอีกมากมายนานัปการ เอาแค่ตัวอย่างที่หยิบมานี้ เชื่อว่า
หากองค์กรใดมีก็ย่อมเป็นที่ปวดหัวของทั้งผู้บริหาร และโดยเฉพาะ HR เป็นธรรมดาล่ะครับ
คำถามก็คือ สภาพการณ์ที่ว่านี้ มีรากเหง้าปัญหาเกิดจากอะไรหรือ ?
ผู้รู้หลายท่าน ให้ความเห็นตรงกันว่า
สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นหลายอย่างที่ว่าไปนั้น
มักเกิดมาจากการที่พนักงานในหน่วยงานมีแรงจูงใจ
หรือขวัญกำลังใจในการทำงานตกต่ำ
ซึ่งส่งผลต่อไปยังประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานที่จะลดต่ำลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะครับ
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า ขวัญกำลังใจ
และแรงจูงใจของพนักงานที่ลดน้อยถอยลงนั้น
ทำให้ “ความอยาก” ที่จะทำอะไร ที่จะรับผิดชอบงานเพื่อองค์กร
เพื่อประโยชน์ส่วนรวม หรือแม้แต่กระทั่งเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของตัวเองลดลงไป
พอเกิดสภาพแบบนี้
แล้วขาดการแก้ไขเหลียวแล
หากพนักงานยังไม่สามารถทำอะไรกับชีวิตการทำงานได้มาก เข้าทำนองลาออกก็กลับบริษัทอื่นจะไม่รับ หรือไม่อยากเสี่ยงตกงาน
พนักงานก็มีแนวโน้มจะทำงานเพียงเพื่อไม่ให้ “โดนด่า” แรง ๆ เท่านั้น จะหวังทำงานอะไรที่สร้างมูลค่า สร้างคุณค่าให้กับหน่วยงานคงจะยาก.....
นั่นล่ะครับที่จะต้องหันมาพิจารณากันเรื่องของขวัญกำลังใจ
และแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานกันสักนิด
วันนี้ ผมมีแนวคิดของ Beverly Kaye ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง
และ CEO ของ Career
Systems International และเป็นผู้แต่ร่วมของหนังสือแนวรักโรแมนติค
อีกสองเล่มที่มีชื่อเสียงคือ ‘Em
or Lose’ และ ‘Em:
Getting
Good People to Stay’
Kaye นำเสนอข้อคิดของเธอไว้ในบทความชื่อ “Career
Development : Anytime Anyplace” ไว้ 2 เรื่องควรทำง่าย
ๆ (แต่เวลาทำ...ไม่น่าจะง่ายเหมือนที่เขียนไว้น่ะสิ...)
อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ
ก็ลองมาดูกัน
เผื่อว่าจะเป็นคำตอบสำหรับการนำไปใช้สร้างขวัญกำลังใจ
และแรงจูงใจในการทำงานให้กับเหล่าพนักงานของท่านหลายได้
เรื่องแรก สอนงาน (coaching)
อย่างถูกต้อง
หัวหน้างานจะต้องสอนงานอย่างถูกต้อง ให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาแนะนำ
และถ่ายทอดความรู้ทั้งหลายในการทำงาน เช่น วิธีการทำงาน ข้อควรระวัง
โอกาสเกิดความผิดพลาดในการทำงาน เป็นต้น ให้กับพนักงาน
พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการซักถาม แต่หากสำหรับลูกน้องคนไทย (ทั่วไป)
ที่มักไม่ค่อยพูดหรือแสดงความคิดเห็นต่อหน้าหัวหน้าแล้วล่ะก็ หัวหน้าทั้งหลาย อาจจะต้องหมั่นติดตาม “ดู” และ
“พูด” กันมากกว่าปรกติ
อย่าได้ทึกทักเอาว่า
สอนงานกันครั้งเดียวจะรู้ทุกเรื่องเหมือนที่ตนเองอยากให้เป็น พร้อมกันนั้น
หัวหน้างานทั้งหลาย
คงต้องเตรียมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกครั้งที่พนักงานของท่านมีปัญหาที่แก้ไม่ตก
หรือปัญหาในระดับที่เขายากจะรับมือ
เรื่องที่สอง พัฒนาต่อเนื่อง
หัวหน้างาน จะต้องหมั่นให้พนักงานได้เรียนรู้
เพื่อเพิ่มพูนพัฒนาทักษะ
และขีดความสามารถทั้งหลายที่จำเป็นต่อการสร้างผลงานที่ดีจากการทำงาน เป็นระยะ ๆ
คำว่า “ต่อเนื่อง” ผมขอตีความง่าย ๆ ว่า “ไม่ทำ ๆ หยุด ๆ โดยขาดการติดตามผล”
แน่นอนครับ หัวหน้างานคงจะต้องรู้เสียก่อนว่า
พนักงานของท่าน
ยังจะต้องเติมเต็มสิ่งใดเข้าไปเพื่อให้มีทักษะความสามารถอันพึงประสงค์
หรือแม้แต่เพื่อสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้ได้
อย่างไรก็ตาม
หัวหน้างานเองก็ไม่ควรเคร่งเครียดเอาเป็นเอาตายกันเสียทุกเรื่อง
ผมเชื่อว่า การสร้างการเรียนรู้ให้กันพนักงานด้วยสภาพบรรยากาศที่มีความสุข มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันมากกว่า
“สั่ง” รวมทั้งใช้วิธีการที่หลากหลายในการเรียนรู้เช่น กิจกรรมให้ทำร่วมกัน เช่น
กิจกรรม 5ส กิจกรรมกลุ่มเสนอแนะ
กิจกรรมกลุ่มคุณภาพ เป็นต้น หรือการมอบหมายงาน
การให้อ่านหนังสือแล้วมาแชร์สิ่งที่ได้จากการอ่านมาแล้วกัน
นอกจากจะก่อให้เกิดประสิทธิผลของการเรียนรู้ในหมู่พนักงานแล้ว ลึก ๆ มันยังสร้าง “ความคุ้นชิน”
กับการพัฒนาตนเองให้กับพนักงาน
และหากหัวหน้างานทำบ่อย ๆ เป็นระยะ ๆ
ความคุ้นชินก็ง่ายที่จะซึมเข้าไปในหัวใจของพนักงานของท่าน กระทั่ง “ขาดมันไม่ได้”....เช่น
ช่วงใดที่ไม่ได้มาพูดคุยประสบการณ์ในการทำงานกัน พนักงานจะถามหา
(ตรงข้ามกับทั่วไปที่เงียบ...ดีดี...ไม่ต้องจัดก็ดี...) นี่สิครับ
สุดยอดของความปรารถนา
เมื่อบ่มเพาะนิสัยที่ดีของการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว สิ่งที่พนักงานจะได้รับใกล้ตัวมากที่สุดคือ
ความสุขจากการทำงานสำเร็จ และโอกาสความก้าวหน้าจากผลงานที่ทำขึ้นมา
สะท้อนไปถึงความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
เช่นเดียวกันครับ เมื่อใดที่องค์กร “ขาดคุณไม่ได้..”
เมื่อนั้นล่ะ คือ บทพิสูจน์ความเป็น “คนคุณภาพ” ของคุณแล้ว จริงมั้ยครับ
เอาล่ะครับ นำเสนอกันมาพอสมควรแล้ว
อยากเชิญผู้อ่านทุกท่านมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูสักนิด
เพื่อสร้างแนวปฏิบัติที่ดีถ่ายทอดระหว่างกันครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น