วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Yes คำสำคัญของความสำเร็จในชีวิต

จำได้ว่าเมื่อราวช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2552 ผมได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมคอร์สชื่อเก๋มากคือ คอร์สปลุกยักษ์วิทยากรคือ Coach ศิริลักษณ์ ตันศิริ ซึ่งปัจจุบันกำลังโด่งดังมากในแง่ที่เป็นนัก Motivator หรือนักสร้างแรงจูงใจในการทำงานและการใช้ชีวิต และอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนไม่น้อย  เชื่อว่า ท่านผู้อ่านคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่บ้าง  

ไปอบรมมาทั้งทีก็ต้องเอาดีให้ได้ล่ะครับ ผมเองก็ได้เรียนรู้ถึงคำคำนึงคือ “Yes” โดย coach ศิริลักษณ์เองก็แนะนำให้ได้เห็นถึงพลังของคำคำสั้น ๆ นี้ ผมจึงอยากจะขอเอามาแชร์  

และในบทบาทหนึ่งที่ผมเล่นเป็น HR ที่ทำงานแบบสมัยใหม่ มีหน้าที่รับผิดชอบอันหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้เพื่อพนักงาน เพื่อให้มุ่งสร้างประสิทธิภาพของการทำงาน ผมเองเชื่อว่า คำคำนี้นำอะไรดีดีหลายอย่างมาให้คนทำงานทั้งหลาย ทั้งท่านทั้งผม  

ท่านผู้อ่านอาจจะบอกว่า อ้อ!! ก็เคยได้ยินมาบ้าง ในหนังก็มีเรื่อง “Mr. Yes Man” ที่คุณพี่ Jim Carrey แสดงงัย เนื้อหาขอหนังก็ทำนองกระตุ้นให้เราได้เห็นถึงการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง ด้วยการสร้างทัศนคติแบบ “Yes” จากภายในตัวเอง และ Yes ก็เป็นหลังที่ช่วยปรับมุมมองด้านลบมาทางด้านบวกได้อย่างมากเลยทีเดียว 

Yes เป็นคำที่ทรงพลังต่อการเปลี่ยนความคิดและชีวิตอย่างไร  เรามาว่ากันครับ  

แต่ผมเองขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช่ Motivator อะไรที่คุณผู้อ่านจะต้องมาเชื่อหรอก แต่ผมขอท้าทายให้ทุกท่านเอาไปคิดและทำ ไม่รู้มันได้ผลอย่างไรมาบอกกันบ้างครับ
 

และอีกอย่างหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังให้กับ Yes คุณก็ควรมีมีท่าทางประกอบด้วยเหมือนกัน หลายท่านแนะนำว่า อาจจะใช้ท่ากำมือแน่นแน่น ดึงแขนท่องล้างดึงเข้าหาตัว พร้อมกับพูด Yes เสียงดัง ๆ เวลาที่เราทำอะไรได้ผลเหมือนที่คิดไว้ ทำมันอย่างจริงจังมุ่งมั่น  กระฉับกระเฉง  เท่านี้ก็จะรู้สึกถึงพลังของความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นจากท่าทางและคำสั้น ๆ ที่เปี่ยมอานุภาพนี้ได้  

แต่อย่าไปออกเสียง  จังซี่มันต้องถอน...จังซี่มันต้องถอน..น...น  นะครับ  เดี๋ยวจะกลายเป็นคนละเรื่อง
 

ผมเชื่อว่า ทุกท่านจะมีท่าทางดีใจส่วนตัว บางคนตีลังกา บางคนเต้นท่าแปลก ๆ เป็นปลาดุกโดนทุบหัว หรืออะไรก็ตาม  เอาให้เหมาะเลยครับ แต่เปล่งเสียงออกมาด้วยว่า “Yes” หรือ ใช่...เราทำได้ 
 

นักจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์บอกไว้ว่า Yes+ท่าทีที่จริงจัง ช่วยเสริมสร้างแลดึงเอาพลังหลายอย่างในตัวของเราออกมา ทั้งพลังจิตสำนึก จิตใต้สำนึก ความกล้าหาญ ขจัดความหวาดกลัว พลังของความหวังในสิ่งที่ดีดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้แฝงเร้นอยูในจิตใจของเราทั้งหลาย ซึ่งมันมีส่วนอย่างมากในการกระตุ้นการทำงานและการใช้ชีวิตของเรา และแน่นอน มันช่วยขับทัศนคติด้านบวก (+) ออกมามากโขทีเดียว  

Yes เป็นพลังที่ปลดปล่อยมุมมองความคิดว่า ทำได้” “เป็นไปได้ออกมา กลับลบล้างทัศนคติ ไม่กล้า กลัว” “ทำไม่ได้” “โอย...มันยากซึ่งเป็นทัศนคติของความล้มเหลวหรือคอยขัดขวางความสำเร็จของเราครับ  

เมื่อเราได้ตะโกน Yes หรือ โอ...มันใช่ออกมาดังดัง (ผมแนะนำให้ทำในห้องส่วนตั๊วส่วนตัว) มันช่วยให้อารมณ์ขุ่นมัวลางลงไปได้ครับ นักจิตวิทยาเค้าว่างั้น...
 
และมันยังช่วยปลดปล่อยความต้องการที่แฝงเร้นในใจออกมา ซึ่งบางทีความต้องการนั้นถูกเก็บกดไว้เพราะความคิด เป็นไปไม่ได้หรอก  หรือ รอชาติหน้าไปเถอะ” ...อะไรแบบนี้ ซึ่งนานเข้ามันก็จะทำให้เราลังเล ไม่แน่ใจ กลัวและไม่กล้าสารพัด  Yes ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายแรงปรารถนานั้นได้ครับ  

แต่พูดอย่างเดียว แล้วไม่สำรวจดูตัวเอง ไม่ลงมือทำตามฝัน เจออุปสรรคก็ท้อแล้วบอกว่า “No Yes” แบบนี้ก็ไม่ได้ครับ

“Yes….ฉันทำได้  “Yes…ฉันจะทำ   “ Yes…ฉันต้องทำให้ได้    จึงเป็นตัวกระตุ้นและเสริมพลังให้เราเดินตามฝันอย่างไม่ลดละ

พลังของมัน ช่วยลดความอึดอัดที่ฝังลึกบ้าง ไม่ลึกบ้างในใจของเราออกมาได้มากเลยครับ  

นักจิตวิทยา รวมทั้ง Motivator อย่าง coach ศิริลักษณ์บอกว่า หากเราคิดจะให้ได้อะไรมา มันก็ต้องคิดเสียก่อนว่ามันจะได้ เราต้องได้มันมาให้ได้ แต่ด้วยวิธีสุจริตนะ ตั้งใจมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ทำให้ได้มา แล้วสุดท้ายมันก็จะได้มา
 
ผมว่า จะได้มาช้าหรือเร็ว มันก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของคุณครับ  

Yes มันก็เลยเปรียบเหมือนกับแม่เหล็กชั้นยอดที่คอบดึงดูดเอาพลังที่ดี พลังด้านบวก (+) เข้ามาหาตัวเรา  และแน่นอนครับ Yes ช่วยปลูกฝังความคิดดีดี ความคิดทางบวก ไม่ทำให้เราท้อแท้  หงอยเหงา ซึมเซา จิตตก

คิดเสียว่าทุกอย่าง Yes เราทำได้ เราจะทำให้ได้ คิดแต่แบบนี้ เชื่อได้เลยว่า เราอยากจะลงมือทำกิจกรรมการงานทั้งหลายให้เห็นผลมากขึ้น  ยกตัวอย่างเรื่องงานนะครับ  เราอาจจะรู้อยู่ว่ามันยาก เพราะมันเป็นอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน มันงง !!! ร้อยแปดพันเรื่อง  ยิ่งไปคิดว่า ไม่ไหว  ทำไม่ได้  มันก็ไม่ได้ทั้งปี ท้อถอย แล้วก็ล้มเลิกไป ไม่เกิดผลงาน แต่ยังงัยมันก็ต้องทำ  ลองคิดใหม่สิครับ “Yes ฉันต้องทำได้   ทำไม่ได้ไปปรึกษาหัวหน้างานดีกว่า.. มันจะต้องทำได้  “Yes ใช่...ฉันจะต้องทำ  คิดเสียแบบนี้ ลองดูสิครับมันจะต่างจากคิดแบบแรกหรือเปล่า 

และเมื่อมีผลดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ประสบความสำเร็จจากงานใหญ่หรืองานเล็ก ๆ แล้วก็ตาม อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองด้วยการชื่นชมบ่อย ๆ ครับ เช่น เย...ฉันทำได้  เห็นไหม ฉันก็ทำได้ ดีใจ ดีใจ  ใช่ มันดีแล้วอะไรแบบนี้ พลังของการชื่นชมตัวเอง จะช่วยเพิ่มทัศนคติแบบ Yes ให้มากขึ้นไปอีก  

ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ ปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาบ้านเรา ท่านให้คำแนะนำให้เราลองใช้ Yes บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีดีกับตัวเรา และชีวิตมากขึ้น   

ก็ไม่เสียหายที่จะลองทำจริงมั้ยครับ  ได้ผลดีอย่างไร บอกด้วยนะ...   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น