อย่างไรก็ดี ปัจจุบันนั้น มิใช่เพียงสภาพเศรษฐกิจตกสะเก็ดเท่านั้นที่ส่งผลกระเพื่อมกับผู้ประกอบการ
การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทในพื้นที่ 7 จังหวัดนำร่อง
และการเตรียมปรับเงินเดือนพนักงานภาคเอกชนที่มีวุฒิปริญญาตรีเป็นเดือนละ 15,000
บาท ตามนโยบายของรัฐบาลที่ทำอะไรก็ “เพื่อไทย” ยังเป็นอีกเชื่อปะทุหนึ่งที่
(แท้จริง) เร่งให้ผู้ประกอบการต้องเข้มงวดจริงจังกับการรัดเข็มขัด
ลดภาระต้นทุน และรีดเอาประสิทธิภาพจากการทำงานของลูกจ้างออกมาใช้มากขึ้น
หนึ่งในมาตรการที่หลายองค์กรนิยมนำมาใช้
โดยเชื่อว่ามีผลกระทบไม่มากนักต่อปากท้องของพนักงานในภาพรวม
ภายใต้สถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้ได้แก่ การลดต้นทุนค่าทำงานล่วงเวลา
หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ลดโอที”
เอาเป็นว่า
โดยหลักการและแนวทางที่ควรทำนั้น
หากเราต้องการลดต้นทุนค่าทำงานโอที ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นเรื่องทึ่กระทบกับพนักงานทั้งบริษัท อันควรต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน
ไล่เรียงตั้งแต่ระดับหัวหน้างาน ลงมาจนถึงตัวพนักงาน
โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานแต่ละหน่วยงาน
จะต้องมองเห็นว่า ปัญหาค่าล่วงเวลากำลังเป็นปัญหาที่กำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งบริษัท
ดังนั้น ถ้าจะให้ได้ผล ผมอยากเสนอแนวทางให้กับคุณพงษ์เทพดังนี้นะครับ
อย่างแรก สร้างทีมทำงานโครงการก่อนเลย
โดยเน้นให้เป็นระดับผู้อำนวยการฝ่ายด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อำนวยการฝ่ายที่คุมกำลังคนมากๆ
จะต้องให้อยู่ในทีม เมื่อรวมทีมได้อย่างที่ต้องการแล้ว ผมอยากให้มีการประกาศอย่างเป็นทางการโดยเบอร์หนึ่งของบริษัทว่า
เรากำลังจะทำอะไร เพราะอะไร แล้วจะเกิดประโยชน์อย่างไร
แต่มีเรื่องที่ต้องระวังนิดหนึ่งก็คือ ผมไม่รู้ว่าวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทคุณพงษ์เทพในเรื่องการที่เราไปแตะเรื่องค่าล่วงเวลาเป็นอย่างไร
เพราะบางที่พนักงานจะมองว่า นั่นเป็นรายได้ประจำเขาเลยละ การไปแตะเรื่องนี้ก็เหมือนไปลดรายได้ประจำเขา
ถ้าเป็นอย่างนี้ก็อาจจะไม่ต้องตีปิ๊บอะไรมาก แต่ให้เตรียมการสื่อสารสำหรับแต่ละหน่วยงานเอาไว้ให้พร้อมเท่านั้น
ต่อมา ก็สร้างความรู้สึกร่วมกันว่า
เรื่องค่าล่วงเวลากำลังเป็นปัญหาใหญ่ โดยขอให้ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและทำข้อมูลที่จะกระตุกความรู้สึกของคนที่ได้เห็นข้อมูลว่า
มันเป็นปัญหาจริงๆ จากนั้นก็ให้ช่วยกันกำหนดภารกิจและสิ่งที่อยากเห็นร่วมกัน ตรงนี้ถ้าคุณพงษ์เทพทำได้ดีก็จะสร้างการยอมรับร่วมกันในเบื้องต้นได้แล้ว
จากนั้น ในทีมก็จะต้องมาวิเคราะห์ร่วมกันว่า สาเหตุของการที่ทำงานล่วงเวลาสูงเกิดจากอะไรบ้าง โดยจะต้องคุยกันบนพื้นฐานข้อมูลที่มีอยู่แล้วนำมาสังเคราะห์หรือวิเคราะห์เพื่อยืนยันข้อสังเกตที่ในทีมได้ช่วยกันระดมความคิดกันออกมา ซึ่งโดยทั่วไปของสาเหตุการเกิดปัญหาค่าล่วงเวลาสูงก็จะมาจากเรื่องหลักๆเช่น
·
เกิดจากกติกาเรื่องการจ่ายค่าล่วงเวลาที่อาจจะมุ่งเน้นทำตามกฎหมายแรงงานอย่างตรงๆ
โดยไม่ได้กำหนดรายละเอียดบางอย่างเพื่อให้เหมาะสม และไม่จำเป็นต้องจ่ายสำหรับบางตำแหน่ง
· เกิดจากการควบคุม ตั้งแต่กระบวนการวางแผนทำงานล่วงเวลา
การอนุมัติให้ทำ การตรวจสอบติดตามว่าทำจริงหรือเปล่า
·
เกิดจากกระบวนการทำงานที่ทำซ้ำซาก ทำในสิ่งที่ไม่ได้สร้างมูลค่าให้กับงานทั้งหมด
หรือมีการกระจายงานที่ไม่ทั่วถึงทำให้ปริมาณงานไปกระจุกอยู่กับบางกลุ่มบางคน หรือการจัดสรรการทำงานล่วงเวลาที่น่าจะให้พนักงานใหม่ที่ยังมีเงินเดือนไม่มากนักทำ
กลับไปมอบหมายให้คนที่อยู่มานานเงินเดือนสูงกว่าทำ เป็นต้น
และเมื่อได้สาเหตุมาแล้ว ก็จะต้องมาหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน
อาจจะเป็นออกกติกาที่กำหนดแนวทางกระบวนการเท่าที่ไม่ขัดกับกฎหมายแรงงาน อาจเป็นการรณรงค์ให้มีสักวันเป็นวันไม่ทำ
OT เพื่อคุณภาพชีวิต หรืออาจตั้งเป้าหมายของแต่ละกลุ่มงานว่าจะต้องไม่เกินกี่ชั่วโมงหรือกี่บาทต่อเดือน
ซึ่งจะเป็นวิธีการไหน มีกี่วิธีการก็ขึ้นอยู่กับว่าในทีมจะวิเคราะห์ได้สาเหตุไปในทิศทางไหน
ซึ่งถ้าคุณพงษ์เทพสร้างให้เขามองเห็นว่าเป็นปัญหาร่วมกันตั้งแต่ต้นแล้ว การได้วิธีการที่จะนำไปสู่การดำเนินการก็จะง่ายขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น