(1) ดูตัวอย่างหรือแนวปฏิบัติขององค์กรอื่น - เพื่อให้มั่นใจว่าการลงมือทำตามแนวปฏิบัติหนึ่งใดที่จะเราเลือกใช้นั้นมีตัวอย่างเชิงประจักษ์อ้างอิงหรือบทเรียนให้เรียนรู้ได้ โดยควรจะทำควบคู่กับการศึกษาองค์ความรู้ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องแบบประกอบกันไป เพื่อให้การนำความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดผลความสำเร็จภายใต้สภาพความเป็นจริงขององค์กร
(2) ค้นหาเบื้องหลังชองสิ่งจูงใจ – โดยค้นหาให้ได้ว่าพนักงานต้องการอะไรเพื่อให้เขาสบายใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงเรื่องใด เรามักพบว่าพนักงานหลายคนกังวลเรื่องทักษะความรู้ใหม่ ๆ ที่เขายังขาดอยู่ หรือที่จะต้องเรียนรู้อย่างยากลำบาก หลายคนกังวลว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะทำให้ตัวเองหมดคุณค่า จากนั้นให้ลองคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้จริงในความกังวลทั้งหลายของลูกน้องหรือลูกทีมนั้น
(3) พร้อมสนับสนุน – ควรแสดงให้ลูกน้องหรือลูกทีมเห็นว่าหัวหน้าคอยให้การสนับสนุนในการก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น อันที่จริงไม่ว่าลูกน้องจะมีประสกบารณ์เพียงใด ต่างก็ต้องการให้หัวหน้าคอยช่วยเหลือสนับสนุนทั้งนั้น โดยเฉพาะในภาวการณ์เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ หากทำให้เขามีรับโอกาสพัฒนาด้วยการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะและสร้างประสบการณ์เพื่อให้เขามั่นใจว่าจะก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงอย่างลงตัวที่สุด เขาย่อมลดหรือผ่อนคลายแรงต้านการเปลี่ยนแปลงไปลงมาก และหากเป็นไปได้ หัวหน้าควรกำหนดมาตรฐาน ขั้นตอนหรือแนวปฏิบัติในการทำงานเอาไว้เพื่อเป็นสิ่งอ้างอิงหรือป้องกันการกระนทำผิดพลาดอย่างไม่ตั้งใจขึ้นมา
(4) ตัดสินใจสิ่งที่จะทำ – การจะสร้างแรงจูงใจเพื่อให้พนักงานเข้าใจและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างได้ผลนั้นต้องอาศัยการรับฟังและพูดคุยกันอย่างกว้างขวางและเข้าใจตรงกัน พร้อมกับบอกแผนปฏิบัติการที่จะใช้ในแต่ละห้วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงนั้นไว้ด้วย
(5) กำหนดนโยบายและแผนงานตอบสนองการเปลี่ยนแปลง – การกำหนดนโยบายและแผนงานเพื่อสนองตอบการเปลี่ยนแปลงนี้นับได้ว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนั้นได้แก่การกำหนดและมีทิศทางเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างชัดเจน การมีนโยบายและแผนงานเช่นนี้มีข้อดีในแง่ที่จะช่วยลดการใช้ดุลยพินิจหรือความคิดอ่านส่วนตัวที่จะใช้กับการเปลี่ยนแปลงอันเป็นแนวโน้มที่จะพบเห็นได้ตามปกติ โปรดอย่าลืมว่าการที่จะจูงใจให้คนเปลี่ยนแปลงเรื่องหนึ่งใดนั้นจะละเลยไม่จัดทำแผนงานรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมกับเตรียมแผนการสื่อสารสิ่งที่ต้องการจะดำเนินการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงให้พร้อมสรรพ โดยควรเน้นให้พนักงานได้เข้าใจอย่างถูกต้องตรงกันถึงเหตุผลอันเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลง
น่าสนใจมากเลยใช่มั้ยครับ หากใช่แล้วต้องลองนำไปลงมือจัดการการเปลี่ยนแปลงในท่านพบเจอดูครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น