วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สร้างความสุขในงาน ทำได้ไม่ยาก !

ในชีวิตของคนเรา เมื่อก้าวเลยจากช่วงวัยเรียนเข้าสู่แวดวงการทำงาน เราจะค้นพบโลกใหม่ที่หลายคนไม่คุ้นชิน หลายคนหลังจากมาทำงานไม่นาน ก็ยังคงอาวรณ์หาเพื่อนร่วมก๊วนที่สมัยเรียนไปไหนไปกัน เพราะความรู้สึกแบบนี้ อาจจะมองหาไม่ได้จากที่ทำงาน ที่ซึ่งคนมาจากแตกต่างสถาบัน หลากพ่อ หลายแม่ แต่ละคนต่างความคิด ผิดกับเพื่อนสมัยเรียนที่หัวหกก้นขวิด และคิดอะไรก็ไม่ต่างกันมากมาย ทะเลาะกันก็แค่ไม่นานแล้วก็ลืมกันไป

ช่วงของการปรับตัวเข้ากับองค์กรใหม่ สำหรับพนักงานใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของคนทำงานกินเงินเดือน ก็เลยมีประสบการณ์คละเคล้ากันไป ขณะที่คนในองค์กรอีกจำนวนไม่น้อย  เมื่อผ่านช่วงเวลาของการปรับตัวให้เข้ากันได้กับชีวิตคนทำงานสักระยะหนึ่ง ก็เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น
แต่ไม่ว่าคนทำงานที่มีประสบการณ์มามากหรือน้อย ต่างก็ต้องการสิ่งหนึ่งเหมือนกัน คือ ความสุขในการทำงาน และถือเป็นสุดยอดของความปรารถนาในชีวิต ความสุขในการทำงานนี่เอง เป็นพื้นฐานของการมีความพึงพอใจกับที่ทำงาน และหัวหน้างาน  เป็นพื้นฐานของความผูกพันกับองค์กรและกับงานที่ทำ และยังเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กร  
แต่แล้วจะทำอย่างไรให้ทุกวันทำงานเป็น “วันสุข (Happy Day)” ของเรา ผมพอมีคำตอบที่เป็นแง่คิดมาให้ลองนำไปคิดและทำดูครับ   
1.  มองคุณค่างานในมุมที่ต่างออกไป   
แต่ละคนมองงานในแง่มุมที่ต่างกันออกไป  แล้วท่านล่ะ ตีความหรือให้ความหมายของคำว่า “งาน” อย่างไร  งานมีความสำคัญกับท่านเพียงใด หลายคนขาดความสุขเพราะมองงานเป็นเพียงหน้าจอคอมพิวเตอร์กับคีย์บอร์ดที่จะต้องนั่งคีย์ๆ ๆ ๆ งาน (ที่ทุกวันก็ทำอย่างนี้) ลงไปในระบบ โดยไม่คิดที่จะสร้างคุณค่าให้งานและตัวเองมากขึ้นเลย ตรงกันข้าม หากท่านมองว่างานคืออะไรที่ท้าทาย และท่านทำเพื่อเติมเต็มคุณค่าในชีวิตของตัวเอง ท่านก็จะเข้าใจและมองงานในอีกมุมหนึ่งที่ happy ได้ แม่ยากเลยใช่มั๊ยครับ ? 
2. จัดการกับความผิดหวังให้ได้   
ไม่มีสิ่งใดในการทำงานจะสมบูรณ์แบบหรอกครับ  มีทั้งสมหวังบ้างและผิดหวังบ้าง ตราบเท่าที่ท่านก็ยังไม่ทราบว่าผลลัพธ์ของงานจะตรงกับที่องค์กรต้องการอย่างแท้จริงหรือไม่ และตราบเท่าที่ท่านมิใช่ผู้มีอำนาจอนุมัติขั้นสุดท้าย  อย่าพะวงกับสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปแล้วมากเกินไป และจงเรียนรู้ที่จะยอมรับมันให้ได้ หาไม่แล้ว สิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่วาดหวัง ก็รังแต่จะทำให้ท่านขาดความสุข  เพียงแต่จะทำงานอะไรลงไปนั้น ขอให้เป็นไปตามหลักคิดและแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง พร้อมกับทำให้ดีที่สุด ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่น หากงานจะพลาดผิดไปจากที่วาดหวังไว้  ท่านก็จะได้ไม่ทุกข์ และมีความสุขกับการทำงานได้
3. ปลูกสร้างความสัมพันธ์
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะ  ไม่เพียงแต่เราจะต้องการให้คนอื่นปฏิบัติกันเราด้วยดีเท่านั้น  เรายังต้องการไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  ในชีวิตการทำงานก็เช่นกัน จะทำงานอย่างมีความสุขได้ก็ควรต้องเรียนรู้ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอื่นให้เป็น และมิใช่เพียงในเรื่องงานเท่านั้น หากแต่ในบางมุมของชีวิตก็ต้องมีเรื่องเหล่านี้ด้วย  ใครจะไปรู้ล่ะว่า สักวันหนึ่งเราอาจจะต้องพึ่งพาใคร และสักวันหนึ่งเช่นกันที่ใครก็ต้องอาศัยเราบ้าง ชีวิตในการทำงานก็เป็นเช่นนี้เองครับ   
4. มองหาเครือข่าย
บางครั้ง การที่ท่านไม่มีความสุขกับการทำงานก็อาจจะเป็นเพราะท่านไม่รู้บทบาทในการทำงานของท่านในบริบทของงานที่ใหญ่กว่างานที่คุ้นเคย  ลองมองหาเครือข่ายเพื่อนร่วมงานที่ท่านต้องเกี่ยวข้อง และลองทำความเข้าใจงานใหม่ ท่านอาจจะเห็นความสุขในการทำงานในมุมที่กว้างขึ้นไปได้นะครับ  
5. รู้เป้าหมายของตัวเอง
ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูสิครับว่า  ท่านทำงานเพื่ออะไร ? ทำงานเพื่อเงิน เพื่อชื่อเสียง หรือเพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กรและสังคมที่ท่านเป็นสมาชิก  ท่านทำอย่างไรเพื่อให้เป้าหมายส่วนตัวบรรลุลงได้ ?  หากต้องการทำงานให้มีความสุข  ทุกย่างก้าวในงาน จึงควรต้องมุ่งไปที่เป้าหมายตามบทบาทหน้าที่ พร้อมกับลองมองดูสิว่า ท่านเข้ากันได้กับคุณค่าหรือค่านิยมที่องค์กรในปัจจุบันต้องการให้เป็นมากน้อยเพียงใด  จงหมั่นเตือนตนเองอยู่เสมอให้เดินหน้าไปหาเป้าหมายลำดับสูงขึ้นไปที่วาดหวังไว้ให้ได้  การตั้งเป้าหมายและเดินตามอย่างมุ่งมั่น สร้างความสุขให้ได้มากเลยนะครับ
6. หยุดนินทาชาวบ้าน 
หนึ่งในเรื่องคลาสสิคที่ชวนปวดหัวในองค์กรแทบทุกแห่ง  คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ซุบซิบนินทา”  หรือเรียกชื่อให้ซอพท์ลงหน่อยคือ “พูดพาดพิง” ยิ่งเรื่องรักใคร่ในองค์กร ใครทะเลาะกับใคร  ใครไม่พอใจกัน ยิ่งชวนเม้าท์กันมันส์ปาก
การนินทานั้น ไม่ได้เป็นเรื่องสร้างสรรค์ที่ทำให้อะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหา การนินทามักจะตามมาด้วยการโยนความผิดออกจากตนเองไปให้กับคนอื่น หากท่านไม่สามารถหยุดวงจรของการนินทาที่ไม่ได้เกิดมาจากท่านได้ ก็อย่าเยี่ยงกรายเข้าไปใกล้ เพราะไม่ได้ดีอะไรกับท่านแม้แต่น้อย พัวพันกันไปมา ท่านจะพลอยติดร่างแหคำนินทาอย่างไม่ตั้งใจ  ขึ้นชื่อว่านินทานั้น ไม่มีใครจริงใจจะพูดถึงกันในทางที่ดีเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่มีใครไว้ใจกันที่จะร่วมหัวจมท้ายรับผิดชอบในคำพาดพิงทางลบคนอื่นหรอกครับ     
การมีความสุขในงานที่ทำนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ผมเชื่อมั่นลึก ๆ ว่า เคล็ดลับสำคัญของการทำงานให้มีความสุขอยู่ที่การรู้จักบทบาทหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง  รู้จักคิด มองโลกและคนในแง่บวก รู้จักทำงานกับผู้อื่นอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย  ผนวกเข้ากับเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย  ข้อแนะนำที่ผมเสนอมา  อาจจะเป็นส่วนน้อยที่พอจะช่วยให้ท่านเลือกนำไปทดลองทำดูได้  ไม่แน่นะครับ สักสองสามเรื่องที่ผมเอยถึงไป อาจทำให้โลกการทำงานในสายตาของท่าน เปลี่ยนแปลงไปได้มา ไม่ลองก็ไม่รู้  ไม่ต้องรอดูก็สบายใจ จริงมั๊ยครับ ? 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น