วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ข้อคิดของการดูเวลาทำงาน

 
ผมไม่ได้พูดให้กลัวหรือเป็นกังวลหรอกครับ ผู้รู้ท่านบอกไว้ว่า คนที่มีแนวโน้มว่าจะเติบ...โตในหน้าที่การงาน มักจะไม่ค่อยดูนาฬิกาเมื่อเวลาใกล้เลิกงานตอนเย็นสักเท่าใด แต่เขามีแนวโน้มทึ่จะบุกบั่นนั่งทำงานต่อไปจนกว่างานที่ตั้งเป้าหมายที่จะทำในวันนั้นจะเสร็จ หรือจนกว่างานเร่งด่วนจะพร้อมส่งมอบตามที่รับปากไว้  

 ที่ว่า คนที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตในหน้าที่การงาน มักจะไม่ค่อยดูนาฬิกาเมื่อเวลาใกล้เลิกงานตอนเย็นก็เป็นเพราะคนที่คอยดูเวลาใกล้เลิกงานเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านนั้น ย่อมถอดใจออกจากงานในวันนั้นแล้ว และผมเองก้อพบประสบการณ์จากตัวเองในบางครั้ง และสังเกตคนรอบข้างในหลายโอกาสว่า คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ มีแนวโน้มที่จะไม่ให้ความสนใจกับการปรับปรุงงานของตัวเองมากนัก ทำงานเพียงแค่ในงานประจำวันที่รับผิดชอบเท่านั้น แต่แม้ว่างานจำเสร็จลงได้เพราะงานอาจจะไม่ได้ซับซ้อนมากไปนัก แต่คุณค่าที่ให้กับองค์กรก็น้อยลงไป 

 แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มองดูนาฬิกาเมื่อใกล้เลิกงานจะไม่มีแนวโน้มที่จะเติบโตหรอกครับ ด้วยเพราะคนเรานั้น ย่อมมีภารกิจส่วนตัวที่ต้องไปจัดการ และเรื่องสมดุลชีวิตในการทำงานก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือแปลกประหลาดที่จะพูดถึงในปัจจุบัน ยิ่งสำหรับคน Gen-Y ซึ่งเริ่มเป็นคนกลุ่มใหญ่และคนกลุ่มใหม่ของประชากรในองค์กร ยิ่งคิดเรื่องแบบนี้มากขึ้น และหากท่านผู้อ่านจะตีความที่ว่าคนที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตในหน้าที่การงาน มักจะไม่ค่อยดูนาฬิกาเมื่อเวลาใกล้เลิกงานตอนเย็นอย่างเคร่งครัด ก็คงดูจะสุดโต่งเกินไป มองแบบกลาง ๆ และคิดใคร่ครวญกันสักนิดดีกว่า  

 ในโลกการทำงานจริง ไม่ได้มีเราเพียงคนเดียวหรอกครับ ยังมีคนที่เค้าคอยแข่งขันและ คาดหวังที่จะเติบโตเหนือกว่าเรา (แต่ไม่บอกเรา) มีหัวหน้าที่คอบสอดส่องพฤติกรรมเพื่อให้ทำงานคุ้มค่าเงินตามที่องค์กรได้จ่ายว่าจ้างเราทำงาน เรื่องเล็กน้อยที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร มันก็เป็นเรื่องไปให้คุยทุกทีเวลาที่ปรับเงินเดือนประจำปี ซึ่งมักจะอิงเอาพฤติกรรมการทำงานประกอบการพิจารณา ท่านว่าจริงมั้ยครับ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น