วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิธีประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Evaluation)

HR Contribution

ในสภาพการณ์ของสังคมที่ความรู้เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด และเป็นสิ่งจำเป็นของการเรียนรู้เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับหน้าที่การงานและชีวิต ในฐานะที่ผู้เขียนทำงานในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล จึงขอฝากเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำงานไว้ให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งผู้เขียนและท่านผู้อ่าน ในลักษณะเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้าง HR เพื่อความเป็นมืออาชีพนะครับ....

การประเมินผลการปฏิบัติงานนั้น โดยทั่วไป องค์กรก็มักจะทำกันปีละครั้งหรือสองครั้ง  หรืออาจจะประเมินกันเป็นรายไตรมาส หากไม่เหนื่อยล้าที่ว่าว่ากัน แม้ดูแล้วการประเมินผลนี้จะไม่ถี่มากนักในหนึ่งปี  แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เชื่อมโยงกับการขึ้นค่าจ้างเงินเดือน รวมทั้งการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษอื่น อันได้แก่ โบนัส เงินราปรับเพิ่มพิเศษประจำปี  นอกเหนือจาก merit increase และที่สำคัญการประเมินพึงต้องสะท้อนให้พนักงานเห็นถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของตนเอง  ก็เลยจำเป็นต้องมีวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้ วันนี้ ผมจะขอนำเสนอแนวคิดของวิธีการประเมินหลายรูปแบบที่นิยมใช้กันเท่านั้นครับ เพราะหากจะลงรายละเอียดกัน สงสัยจะต้องเขียนเป็นหนังสือกันเลยทีเดียว  เวลาคงไม่เอื้ออำนวยมากนัก จึงขอ ออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นแค่แนวคิดครับ หากท่านใดที่สนใจรายละเอียด น่าจะหาอ่านได้ตามหนังสือตำราด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน  ซึ่งมีอยู่หลากหลายให้ค้นคว้าครับ

ในการประเมินผลการปฏิบัติงานงานนั้น  เท่าที่รวบรวมแบบที่นิยมใช้กัน มีวิธีการหลายอย่าง ได้แก่

§   การประเมินโดยหัวหน้างาน (Top-Down)

เป็นวิธีการให้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและละเอียดที่มากพอ ตามภาระหน้าที่รับผิดชอบของงาน รวมทั้งระบุจุดแข็ง จุดอ่อน สาขาความเชี่ยวชาญ  ขอบข่ายงาน เป็นต้น โดยหัวหน้างานแก่พนักงานโดยตรง ควรให้เกิดการสื่อสารแบบสองทางโต้ตอบกัน

§   การบรรยายผลการปฏิบัติงาน (Narrative/Essay)

วิธีการนี้ จะใช้ระยะเวลามากเนื่องจากหัวหน้างานจะต้องให้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและละเอียดที่มากพอ ตามภาระหน้าที่รับผิดชอบของงาน รวมทั้งระบุจุดแข็ง จุดอ่อน สาขาความเชี่ยวชาญ  ขอบข่ายสิ่งที่ต้องปรับปรุง เป็นต้น แต่มีข้อดีที่เป็นการสนับสนุนให้หัวหน้างานและพนักงานได้พูดคุยกับอย่างกว้างขวาง

§   การประเมินตามวัตถุประสงค์ (Management by Objectives)

วิธีการนี้  พนักงานแต่ละคนจะมีเป้าหมายการทำงานของตัวเอง และได้รับการกำหนดให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร ในปีแรก ๆ พนักงานจะทำงานกับหัวหน้างานและผู้จัดการ ซึ่งจะทำหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานและทบทวนอย่างใกล้ชิด จากนั้น พนักงานจะได้รับการประเมินบนพื้นฐานของการทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย

§   การประเมินตนเอง (Self-Assessment)

วิธีการนี้ เป็นการให้พนักงานประเมินผลการปฏิบัติงานด้วยตนเองตาม  เกณฑ์ที่กำหนด  แยกต่างหากจากการประเมินของหัวหน้างาน  และในการประเมินรอบสุดท้าย  จะนำผลการประเมินทั้งจากหัวหน้างานและพนักงานมาเปรียบเทียบกับเพื่อวิเคราะห์ช่องว่างผลการประเมินเพื่อนำไปกำหนดประเด็นการพัฒนาหรือปรับปรุงผลการปฏิบัติงานต่อไป
 

§   การประเมิน 360 องศา (360-Degree)

จัดว่าเป็นวิธีการยอดนิยมอย่างหนึ่งในการประเมิน  โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะรวบรวมผลการประเมินการปฏิบัติงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของพนักงาน นับแต่เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หัวหน้า ไปจนถึงลูกค้าทั้งภายในและภายนอก  โดยให้ผู้ประเมินให้ค่าระดับคะแนนตามที่สังเกตเห็นผลการปฏิบัติงาน รวมทั้งพฤติกรรมการทำงานตามกรอบหัวข้อของการประเมินที่กำหนดไว้  และแต่ละคนจะทำการประเมินเป็นความลับ ส่งตรงมาให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

§   การประเมินแบบตัวต่อตัว (Peer-to-Peer)

วิธีการนี้ ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะผู้ประเมินและผู้รับการประเมินจะต้องเป็นระดับงานเดียวกัน  มาเปรียบเทียบกันเพื่อหาว่าผลการปฏิบัติงานของพนักงานรายใดดีที่สุด  วิธีการนี้  นิยมใช้กรณีที่งานที่ประเมินนั้น  ยังไม่ปรากฏแนวปฏิบัติและผลงานที่ชัดเจน  หากได้ข้อมูลผลการปฏิบัติงานมาแล้ว  ก็จะกำหนดเป็นผลการปฏิบัติงานที่คาดหวัง

§  การประเมินแบบวัดค่าเชิงปริมาณ (Graphic Rating Scale)
วิธีนี้นิยมใช้กันทั่วไป โดยเฉพาะในองค์กรภาคอุตสาหกรรม ที่มุ่งวัดผลิตภาพจากการทำงานในเชิงปริมาณ หรือวัดผลงานชิ้นงานที่ชัดเจน ที่วัดค่าได้ จากนั้นก็ให้ค่าคะแนนเทียบกับมาตรฐานผลงานที่กำหนดไว้ตามหน้าที่งาน (standardized performance) 
§  การประเมินแบบแมทริกซ์ (Matrix)
วิธีการประเมินผลงานแบบนี้ใช้ได้ดีในองค์กรที่มีผู้จัดการคนหนึ่งในกำกับดูแลลูกทีมที่มาจากหลายหน้าที่งาน และอาจจะมีการย้ายงานของลูกทีมจากหน่วยงานหนึ่งไปอีกหน่วยงานหนึ่งภายในปีที่ประเมินผลงาน  โดยที่ลูกทีมคนนี้ ยังคงสังกัดงานที่รับผิดชอบหลักในทีม    โดยมากก็พบในองค์กรที่จัดโครงสร้างการบริหารงานแบบ Matrix Organization Structure นั่นเองครับ วิธีประเมินนี้  มีหลักการที่พูดให้เข้าใจอย่างง่ายได้ว่า พนักงานจะได้รับการประเมินภายใต้หลายเงื่อนไข จากผู้จัดการหลายคนที่ทำหน้าที่ดูแลแต่ละงานที่สมาชิกในทีมรับผิดชอบ  ซึ่งเกณฑ์หรือประเด็นของการประเมินพนักงานที่เป็นสมาชิกในทีมแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันได้   จากนั้น ก็จะหาค่าเฉลี่ยของคะแนนในแต่ละเกณฑ์หรือแต่ละเงื่อนไขเปรียบเทียบกับระดับผลการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้  
องค์กร คงต้องพิจารณากันให้ดีนะครับว่าจะเลือกใช้วิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานวิธีใด  ซึ่งว่าตามจริงก็คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กร และหน่วยงาน รวมทั้งขึ้นอยู่กับเป้าประสงค์เบื้องลึกเบื้องหลังการประเมินพนักงาน เพียงแต่ที่สำคัญนั้น การประเมินจะต้องช่วยสะท้อนให้เห็นว่า พนักงานแต่ละคนควรได้รับการปรับปรุงอะไร และจัดมีแนวทางการพัฒนาพนักงานให้เขาเติบโตก้าวหน้าในสายอาชีพของเขาอย่างไร  กรณีก็มีบ้างว่า พนักงานบางคนเมื่อประเมินผลมาแล้ว  ต่ำกว่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ (unsatisfactory) มาต่อเนื่องหลายปี  องค์กรก็คงต้องหาวิธีการจัดการที่เหมาะสมเป็นลำดับต่อมา จะปรับปรุงผลการปฏิบัติงาน (Performance Improvement) หรือจะเลิกจ้าง (Termination) ก็ว่ากันไป และในภาพรวมแล้ว หากพนักงานมองกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติงานในเชิงบวก ก็น่าจะ happy และสะท้อนฝีมือคนทำงาน HR ได้มากโขทีเดียว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น