แน่นอนครับว่า การสอนงานนี้
เป็นเรื่องที่ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมจากหน่วยงานภาคเอกชนเท่านั้น ในระบบราชการเอง ก็มีการผลักดันให้นำมาปรับใช้ด้วยเช่นกัน
หากถามว่าการสอนงานคืออะไร ผมขอสรุปอย่างง่ายได้ว่า การสอนงานก็คือ
การที่บุคคลคนหนึ่ง ที่โดยมากก็คือพนักงานที่มีอาวุโส หรือตำแหน่งงานที่สูงกว่า
อาจจะนอกสายงานหรือในสายงานโดยตรง ทำหน้าที่ช่วยบุคคลอีกคนหนึ่ง ที่มักเป็นพนักงานใหม่
หรือพนักงานที่ต้องมาเรียนรู้ในงานที่เขาจะต้องรับผิดชอบ จากการเปลี่ยนสายงาน
การได้รับมอบหมายงานเพิ่มเติม
การได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น
พัฒนาขีดความสามารถในการทำงาน
รวมทั้งการมีพฤติกรรมในการทำงานที่เหมาะสมให้ได้ผลดี
การสอนงานนั้น
มีอะไรที่มากกว่าการ “สอน” โดยวิธีการหรือเครื่องมือต่าง ๆ
เพื่อให้รู้และเข้าใจเนื้อหา
แต่การสอนงานยังรวมไปถึงเรื่องของการให้กำลังใจ การเกื้อกูลหนุนช่วย
การให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหา การปรับปรุงทั้งในเรื่องงานและส่วนตัว
ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่า
การสอนงานเป็นเรื่องไม่เล็กเลย จริงมั้ยครับ
คุณสมบัติของผู้ที่มาทำหน้าที่ในการสอนงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องคัดกรองกันอย่างดีเลยล่ะครับ
โดยทั่วไป
เราจะได้เห็นการสอนงานในส่วนงาน ที่เป็นบทบาทของหัวหน้างานระดับต้นซะเป็นส่วนใหญ่
เพราะหัวหน้างานที่เป็นผู้บริหารระดับสูง
มักจะไม่มีเวลามากนักที่จะมานั่งสอนงานให้กับลูกน้องของตัวเองในระดับที่รองลงมาจากเขา
ตัวขับเคลื่อนงาน
และทำให้การสอนงานเป็นระบบที่สร้างสมรรถนะขีดความสามารถให้กับองค์การอย่างได้ผล
จึงเป็นการสอนงานที่เป็นบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างานระดับต้น เช่น Supervisor ผู้จัดการแผนก
(หากแผนกเป็นหน่วยงานที่เล็กกว่าฝ่าย) เป็นต้น องค์การ
จึงควรหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพในการสอนงานของคนกลุ่มนี้เป็นหลักครับ
ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นการดีนะครับ
ที่หัวหน้างานกับลูกน้องในสายงาน
จะมีเวลาในแต่ละสัปดาห์สัก 1 ชั่วโมง เพื่อมาสอนงานกัน สร้างความรู้ในงาน
และอาจจะรวมไปถึงการระดมแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะในการแก้ไขปัญหาระหว่างกัน
ผมเองเชื่อว่า
ลูกน้องเอง แทบจะทุกคนก็อยากที่จะทำงานให้มีประสิทธิภาพ และได้ผลงาน
อย่างที่ใจเขาต้องการ และแน่นอน องค์การหรือหัวหน้างานนั้นเอง
จะต้องคอยส่งเสริมให้ลูกน้องทำงานให้ได้อย่างที่องค์การต้องการจากเขา
การสอนงานกับการบริหารผลการปฏิบัติงาน
หรือ Performance Management จึงเป็นสองเรื่องที่หนุนเสริมกัน
แยกจากกันไม่ได้ และจะทำให้ได้ผล
ก็น่าจะทำสองเรื่องนี้ไปพร้อมกัน
หัวหน้างานในองค์การของผมหลายท่านถามผมว่า เมื่อไหร่ล่ะที่เขาจะสอนงาน และถามจริงการสอนงานนั้นมีประโยชน์อะไร ผมตอบว่า เราควรใช้การสอนงานเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้ของคนในหน่วยงานของเรา
เมื่อเราเห็นว่า พนักงานของเขา
จำเป็นแล้วที่จะต้องได้รับความรู้ในการทำงานอย่างถูกต้อง
หรือได้รับความรู้อื่นเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดปัญหาของผลงานขึ้นมาครับ
ประสบการณ์มันสอนผมว่า เมื่อเรามอบหมายงานให้ลูกน้องไป
อย่างได้คาดหวังเสียเต็มที่ว่าเขาจะสามารถทำงานให้เราได้อย่างที่ใจคิด
หรือเต็มร้อย เพราะบางครั้งเขาอาจจะรับงานจากเราโดยที่ไม่อยากขัดแย้งหรือขัดใจเราก็ได้ และนั่นก็ไม่ใช่หลักประกันว่า
เขาจะรู้ว่าจะต้องจัดการงานที่เรามอบหมายให้อย่างไรเช่นกัน
แต่หัวหน้างานควรจะติดตามงานกับเขาโดยหมั่นสอบถามถึงวิธีในการทำงานของเขา
ให้คำแนะนำวิธีการทำงานที่เหมาะสม
ที่ผมบอกว่าเหมาะสมนั้นก็เพราะว่า หัวหน้างานส่วนใหญ่มักมีแนวโน้มที่จะโน้มน้าว
หรือ “สั่ง” ให้ลูกน้องใช้วิธีการทำงานที่หัวหน้างานอยากให้ทำ เมื่อหัวหน้างานทำแบบนี้ ซึ่ง “ไม่เหมาะสม” ลูกน้องก็มักจะซึมซับพฤติกรรม
และรอรับคำสั่ง
และหากสิ่งที่สั่งให้ลูกน้องทำนั้นไม่สำเร็จ ก็เป็นไปได้ครับว่า ในใจของลูกน้องเขาจะคิดว่า
ถ้าใช้วิธีการเขาก็อาจจะไม่ผิดพลาดหรืออาจจะสำเร็จได้ และนานนานเข้า
เขาก็จะขาดศรัทธาในตัวหัวหน้างาน
เราอยากให้ลูกน้องเป็นหุ่นยนต์
หรือเป็นมนุษย์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ริเริ่มงานด้วยตัวของเขาเองล่ะครับ วิธีหลังนี้
ย่อมต้องใช้เวลา และสร้างกันขึ้นมาบนพื้นฐานของความพยายามอย่างสูงยิ่ง แต่ได้ผลยั่งยืนกว่าแน่นอนครับ
ในแง่ประโยชน์นั้น การสอนงานช่วยให้ผู้ได้รับการสอนงาน
ผู้สอนงานและองค์การ ได้รับประโยชน์ทุกฝ่ายล่ะครับ ในแง่ของลูกน้อง
หรือผู้ที่ได้รับการสอนงาน ก็จะได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจในงานที่ทำ
และได้รับมอบหมาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน
และช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนงานและผู้ได้รับการสอนงาน ที่สำคัญ
การสอนงาน เป็นวิธีการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรที่มีต้นทุนต่ำมาก
เมื่อเทียบกับการฝึกอบรมภายนอกองค์การ
ซึ่งเหมาะสมกับภาวะลดต้นทุนองค์การในปัจจุบัน
การสอนงานนั้น มีหลักสำคัญพื้นฐานที่ทั้งผู้สอนงานและผู้ได้รับการสอนงานจะต้องทราบและเข้าใจตรงกันก็คือ
อะไรคือสิ่งที่คาดหวังที่จะได้รับจากการสอนงาน
ทั้งผู้สอนงานและผู้ได้รับการสอนงานจะต้องทำอะไร
และผู้ได้รับการสอนงานจะต้องได้รับการพัฒนาทักษะความสามารถอะไร
เอาล่ะครับ ว่ากันมายืดยาว โอกาสหน้า
ผมจะมาเล่าสู่ท่านผู้ฟังในเรื่องของบทบาทของแต่ละฝ่ายที่จะต้องทำหรือควรจะเป็น
เพื่อให้การสอนงานเป็นการสอนงานครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น